การฟื้นฟูป่า: แนวคิดและศักยภาพของการฟื้นฟูป่าแบบอัตโนมัติ
Elliott, S., 2020. Forest restoration: concepts and its potential for automation. Chapter 1, pp1-27 in Elliott S., G, Gale & M. Robertson (Eds), Automated Forest Restoration: Could Robots Revive Rain Forests? Proceedings of a brain-storming workshop, Chiang Mai University, Thailand. 254 pp.
บทคัดย่อ: ในปีพ.ศ.2557 ในงาน UN New York Climate Summit ได้มีการตั้งเป้าหมายที่จะฟื้นฟูป่าในพื้นที่ป่าถูกทำลายให้ได้ถึง 350 ล้านเฮกตาร์ภายในปีพ.ศ. 2573 เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ (climate chang) ซึ่งการปลูกต้นไม้แบบดั้งเดิมที่ต้องอาศัยแรงงานคนไม่อาจจะทำให้ไปถึงเป้าหมายนี้ได้ เนื่องมาจากพื้นที่ที่ต้องฟื้นฟูส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ และจำนวนแรงงานที่มีจำกัด ดังนั้น ในฉบับนี้จึงตีพิมพ์เนื้อหาเกี่ยวกับแนวคิดพื้นฐานของการฟื้นฟูป่า หรือฟื้นฟูระบบนิเวศ สรุปภารกิจที่จำเป็นเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย และศักยภาพของการใช้เทคโนโลยีร่วมด้วย
โดรนที่มีโปรแกรมจดจำต้นไม้สามารถระบุตำแหน่ง GPS ของต้นท้องถิ่นที่มีเมล็ดที่เพาะได้ในป่าธรรมชาติ ทำให้เกิดเก็บเกี่ยวเมล็ดง่ายขึ้น หรืออาจเก็บเมล็ดโดยอัตโนมัติด้วยการใช้แขนกล หรือสายดูด หรือแปรงหมุน และมีการใช้โดรนในการเพาะเมล็ดทางอากาศอยู่แล้ว ความต้องการในการพัฒนาระเบิดเมล็ดที่ย่อยสลายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะปกป้องเมล็ดจากการขาดน้ำด้วยไฮโดรเจล (hydrogel) ขณะเดียวกันก็ให้สารอาหาร, สารเร่งการเจริญเติบโต และจุลินทรีย์ เพื่อส่งเสริมการสร้างต้นไม้ โดรนร่วมกับเทคโนโลยีจดจำและเรียนรู้พืช อาจสามารถควบคุมวัชพืชได้ด้วยการพ่นสารกำจัดวัชพืช โดยหลีกเลี่ยงการฆ่าต้นไม้ได้ และให้ปุ๋ยรอบต้นกล้าได้อย่างถูกต้องแม่นยำ กระบวนการเหล่านี้สามารถทำได้แบบอัตโนมัติ โดยการชาร์จแบตเตอรี่ของโดรนด้วยแผ่นชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์
การติดตามตรวจสอบการปกคลุมของเรือนยอดเป็นไปได้แล้ว ด้วยการติดตั้งเซนเซอร์บนโดรน คาดว่า การพัฒนาโปรแกรมจดจำพืชจะสามารถทำให้เกิดการติดตามตรวจสอบความหลากหลายของชนิดพืชแบบอัตโนมัติในไม่ช้า รวมถึงการฟื้นฟูกลุ่มประชากรของนก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ก็สามารถบันทึกได้ด้วยไมโครโฟนระยะไกล และกล้องดักถ่ายภาพ ข้อมูลจากเครื่องเหล่านี้สามารถส่งผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ได้ หรือใช้โดรนในรูปแบบของ data mules ถึงแม้หลายเทคโนโลยีที่กล่าวมาจะมีอยู่แล้ว แต่เทคโนโลยีเหล่านี้จะต้องได้รับการปรับปรุง เช่น ยืดอายุแบตเตอร์รี่โดรน หรือทำให้ราคาถูกลง และทนทานมากขึ้น เพื่อให้สามารถใช้งานเป็นระยะเวลานานได้ในสภาพอากาศเขตร้อน เป็นการพัฒนาระบบฟื้นฟูแบบอัตโนมัติให้สามารถใช้ได้จริง ดังนั้น การร่วมมือกันระหว่างนักนิเวศวิทยาและผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะทำให้เกิดระบบฟื้นฟูแบบอัตโนมัติที่คุ้มทุนและใช้การได้