ความเสื่อมโทรมของป่า

ความเสื่อมโทรมของป่า

Language:

ความเสื่อมโทรมของป่า

ความเสื่อมโทรมของพื้นที่มี 5 ระดับกว้างๆ ซึ่งแต่ละระดับต้องใช้กลยุทธ์การฟื้นฟูที่แตกต่างกัน สามารถจัดจำแนกระดับความเสื่อมโทรมเหล่านั้นได้โดยพิจารณา 'เกณฑ์' ที่สำคัญ 6 ประการของความเสื่อมโทรม โดยสามปัจจัยเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาในระดับพื้นที่และสามปัจจัยต้องพิจารณาจากภูมิทัศน์โดยรอบ

ปัจจัยจำกัดที่ต้องพิจารณาในระดับพื้นที่:

  • ความหนาแน่นของต้นไม้ลดลงจนทำให้วัชพืชกลายเป็นพืชเด่น จนทำให้กล้าไม้ธรรมชาติไม่สามารถขึ้นได้
  • ปริมาณของแหล่งของพรรณไม้ธรรมชาติในการฟื้นตัวของป่า เช่น ปริมาณเมล็ดพันธุ์ในพื้นที่ ตอไม้ที่ยังมีชีวิตหรือแม่ไม้ที่ให้เมล็ดได้ลดลงเกินกว่าจะสามารถรักษาประชากรของชนิดพันธุ์ที่มีอยู่เดิมได้
  • หน้าดินถูกกัดเซาะจนถึงระดับที่กลายเป็นตัวจำกัดการงอกของเมล็ด

ปัจจัยจำกัดที่ต้องพิจารณาในระดับภูมิทัศน์:

  • ป่าสมบูรณ์ที่เหลืออยู่ในภูมิทัศน์โดยรวมต่ำกว่าจุดที่สามารถรักษาความหลากหลายของชนิดพันธุ์ไม้ที่เป็นตัวแทนของป่าปฐมภูมิในระยะที่เมล็ดสามารถกระจายเข้าสู่พื้นที่ฟื้นฟูได้
  • ประชากรของสัตว์ที่ช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ลดลงจนไม่สามารถที่จะนำเมล็ดไม้เข้ามาในพื้นที่ที่ต้องการฟื้นฟูได้เพียงพอ
  • ความเสี่ยงในการเกิดไฟสูง จนทำใหกล้าไม้ธรรมชาติไม่สามารถรอดชีวิตได้  

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 1

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 1

ปัจจัยภายในแปลง 

ปัจจัยจากภูมิประเทศ   

Illustration of Stage 1 Forest Degradataion

พืช : ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมพืชชั้นล่าง

แหล่งของการฟื้นตัว : เมล็ดในดินจำนวนมากและหนาแน่น เมล็ดตกในพื้นที่มาก และยังมีตอไม้ที่มีชีวิต

ดิน : ถูกรบกวนเล็กน้อย พื้นที่ส่วนใหญ่คงความอุดมสมบูรณ์

ป่า :ยังมีพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งของเมล็ดพันธุ์  

ตัวกระจายเมล็ด : พบได้ทั่วไปทั้งสัตว์ใหญ่และสัตว์เล็ก

ความเสี่ยงในการเกิดไฟ : ต่ำถึงปานกลาง

วิธีการที่เหมาะสมสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ:

  • ป้องกันการถูกรบกวนในอนาคตนำพืชและสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปจากพื้นที่กลับเข้ามาใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่เป็นตัวการสำคัญในการผสมเกสรและกระจายเมล็ดพันธุ์
  • การนำชนิดพันธุ์ท้องถิ่นที่สูญพันธุ์กลับมาสู่พื้นที่อีกครั้ง

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 2

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 2

ปัจจัยภายในแปลง 

ปัจจัยจากภูมิประเทศ   

Illustration of Stage 2 Forest Degradation

พืช: ต้นไม้ขึ้นปนกับพืชขนาดเล็ก

แหล่งของการฟื้นตัว: เมล็ดและกล้าไม้ลดลง แต่พบตอไม้ที่ยังมีชีวิตอยู่มาก

ดิน: ส่วนใหญ่ยังคงสมบูรณ์ ถูกกัดเซาะน้อย

ป่า : มีพอที่จะเป็นแหล่งให้เมล็ดพันธุ์

ตัวกระจายเมล็ด: สัตว์ใหญ่ค่อนข้างหายากแต่สัตว์เล็กพบอยู่ทั่วไป

ความเสี่ยงในการเกิดไฟ : ปานกลางถึงสูง

วิธีการที่เหมาะสมสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ:

  • ANR- ปกป้องป่าที่ยังคงเหลืออยู่และป้องกันไม่ให้เกิดการล่าสัตว์ที่ช่วยกระจายเมล็ด
  • ปลูกต้นไม้บางชนิดของป่าปฐมภูมิเพื่อทดแทนหากต้นไม้ชนิดนั้นหายไป

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 3

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 3

ปัจจัยภายในแปลง 

ปัจจัยจากภูมิประเทศ

Illustration of Stage 3 Forest Degradation

พืช: พืชล้มลุกเป็นพืชเด่น

แหล่งของการฟื้นตัว: ส่วนใหญ่มาจากเมล็ดที่ถูกนำเข้ามาในพื้นที่อาจมีลูกไม้และตอไม้ที่มีชีวิตอยู่บ้าง

ดิน: ส่วนใหญ่คงความสมบูรณ์ถูกกัดเซาะน้อย

ป่า:  มีเหลืออยู่เป็นแหล่งเมล็ดพันธุ์

ตัวกระจายเมล็ด: สัตว์ขนาดเล็กที่นำพาเมล็ดขนาดเล็ก

ความเสี่ยงในการเกิดไฟ : สูง

วิธีการที่เหมาะสมสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ:

  • ปกป้องป่าที่เหลืออยู่และป้องกันไม่ให้เกิดการล่าสัตว์กระจายเมล็ดพันธุ์ + ANR + วิธีการปลูกพรรณไม้โครงสร้าง 20-30 ชนิด

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 4

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 4

ปัจจัยภายในแปลง 

ปัจจัยจากภูมิประเทศ

Illustration of Stage 4 Forest Degradation

พืช: วัชพืชเป็นพืชเด่น

แหล่งของการฟื้นตัว:: น้อย

ดิน:  ความเสี่ยงต่อการกัดเซาะเพิ่มมากขึ้น

ป่า:  ขาดแหล่งให้เมล็ดพันธุ์ในระยะที่เมล็ดจะถูกนำเข้ามาได้

ตัวกระจายเมล็ด: สัตว์ใหญ่เกือบหมดไปจากพื้นที่

ความเสี่ยงในการเกิดไฟ : สูง

วิธีการที่เหมาะสมสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ:

  • ปกป้องป่าที่เหลืออยู่และป้องกันไม่ให้เกิดการล่าสัตว์กระจายเมล็ดพันธุ์ + ANR + วิธีการพรรณไม้โครงสร้าง + การปลูกเสริมด้วยพรรณไม้เสถียร
  • การปลูกต้นไม้โดยให้มีความหลากหลายสูงสุด เช่น วิธีการของ Miyawaki

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 5

การเสื่อมโทรมของพื้นที่ระดับที่ 5

ปัจจัยภายในแปลง 

ปัจจัยจากภูมิประเทศ

Illustration of Stage 5 Forest Degradation

พืช: ไม่มีต้นไม้ปกคลุม สภาพดินที่แย่จำกัดการขึ้นของวัชพืชต่างๆ

แหล่งของการฟื้นตัว:: น้อยมาก

ดิน:  หน้าดินถูกกัดเซาะจนเสียสภาพ

ป่า:  ขาดแหล่งเมล็ดพันธุ์บริเวณใกล้เคียง

ตัวกระจายเมล็ด: กือบหมดไปจากพื้นที่

ความเสี่ยงในการเกิดไฟ : สูงมาก

วิธีการที่เหมาะสมสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ:

  • ปรับปรุงสภาพดินโดยการปลูกพืชคลุมดิน และการเติมปุ๋ยหมัก ใสปุ๋ยหรือจุลินทรีย์สำหรับดิน
  • ตามด้วยการปลูกต้นไม้พี่เลี้ยง เช่น พืชเบิกนำตระกูลถั่ว
  • จากนั้นจึงทำการปลูกต้นไม้ท้องถิ่นชนิดอื่นเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ